การกระจายอำนาจในการบริหารการศึกษา
การให้การศึกษาแก่ปวงชนไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบทควรมีความแตกต่างกันทั้งรูปแบบและสาระ แต่ทั้งนี้ควรให้สอดคล้องกับสภาพของชีวิตที่เป็นจริง
ผู้ได้รับการศึกษามีความแตกต่างกันทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และความสามารถในการเรียนรู้ การให้การศึกษาที่เหมือนกันและเท่ากันแก่ผู้เรียนที่ไม่เท่าเทียมกัน ย่อมเป็นการยากที่จะทำให้เกิดผลผลิตที่เท่ากันได้ ดังนั้น เมื่อผู้ได้รับการศึกษามีความไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาที่จัดให้ก็ควรจะจัดในสิ่งที่ไม่เท่ากันเพื่อที่จะให้เกิดผลผลิตที่เท่ากัน
การตอบสนองต่อแนวคิดข้างต้น ไม่อาจกระทำได้โดยการบริหารงานแบบรวมอำนาจ (centralization) แต่อาจมีความเป็นไปได้โดยการบริหารงานแบบกระจายอำนาจ (decentralization)
การบริหารงานแบบรวมอำนาจและการบริหารงานแบบกระจายอำนาจเป็นหลักที่สำคัญในการบริหารงาน ในประเทศกำลังพัฒนานั้น สภาพทางเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดโครงสร้างทางสังคม การเมือง และการบริหาร ประเทศต่าง ๆ มักจะนึกถึงความมั่นคงของประเทศเป็นประการสำคัญ รัฐบาลมักจะจัดโครงสร้างทางการบริหารบนพื้นฐานของการรวมอำนาจในการบริหารของภารกิจต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติและมุ่งเน้นการรวมอำนาจหน้าที่ (authority) ไว้ที่ศูนย์กลางหรือส่วนกลาง
เมื่อพูดถึงการกระจายอำนาจการบริหาร คนส่วนมากมักจะนึกถึงการกระจายอำนาจทางการเมืองการปกครอง เพราะเราแบ่งระบบบริหารราชการแผ่นดินออกเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น นอกจากนั้น มักจะแบ่งการกระจายอำนาจเป็น ๒ มิติ คือ การกระจายอำนาจทางการเมือง (political decentralization) และการกระจายอำนาจทางการบริหาร (administrative decentralization)
การกระจายอำนาจทางการบริหารการศึกษาเป็นการถ่ายโอน (transfer) อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และการตัดสินใจจากส่วนกลางหรือศูนย์รวมอำนาจไปสู่ส่วนต่าง ๆ ขององค์การหรือตามระดับขั้นขององค์การ โดยให้ทุกส่วนขององค์การได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ทั้งนี้การให้บุคคล คณะบุคคล หรือ ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารนั้นเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมประชาธิปไตย การกระจายอำนาจทางการบริหารการศึกษาจะทำให้บางส่วนขององค์การมีความเป็นอิสระ (autonomy) จุดมุ่งหมายที่สำคัญของการกระจายอำนาจบริหารการศึกษา คือการปรับปรุงหรือพัฒนาสถานศึกษา การกระจายอำนาจทางการบริหารในประเทศกำลังพัฒนามักจะเกิดขึ้นเพราะแรงจูงใจทางการเมืองมากกว่าแรงจูงใจที่แท้จริงทางการศึกษา
การกระจายอำนาจในการบริหารการศึกษาจำเป็นจะต้องพิจารณาใน ๓ มิติ ต่อไปนี้
๑. การกระจายอำนาจในองค์การ (organizational decentralization)
๒. การกระจายอำนาจทางการเมือง (political decentralization)
๓. การกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ (economic decentralization)
รูปแบบ (form) ของการกระจายอำนาจทางการบริหารการศึกษาควรประกอบด้วย
๑. การแบ่งอำนาจ (deconcentration)
๒. การมอบอำนาจ (delegation)
๓. การโอนอำนาจ (devolution)
๔. การให้เอกชนดำเนินการ (privatization)
ความแตกต่างของแต่ละรูปแบบขึ้นอยู่กับการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจจากศูนย์รวมอำนาจไปให้ใคร และใครคือผู้รับผิดชอบในผลของการตัดสินใจนั้น ๆ
การกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาอยู่บนแกนต่อเนื่องระหว่าง ๒ ขั้ว ขั้นหนึ่งคือการบริหารแบบรวมอำนาจชนิดสุดโต่ง อีกขั้วหนึ่งคือ การบริหารแบบกระจายอำนาจชนิดสุดโต่ง ระดับของการกระจายอำนาจจึงขึ้นอยู่กับว่า
๑. เป็นการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจในเรื่องอะไร
๒. ถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจไปให้ใคร
๓. ใครคือผู้รับผิดชอบในผลของการตัดสินใจนั้น ๆ
การกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาควรจะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ มิควรจะดำเนินการโดยการปฏิรูป.
ผู้เขียน : นายเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ราชบัณฑิต ประเภทสังคมศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง
ที่มา : จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๗๐ มีนาคม ๒๕๔๐