การใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านาม

          ปัจจุบัน ตำแหน่งทางวิชาการ เช่น ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สามารถนำมาใช้เป็นคำนำหน้านามได้อย่างถูกต้องตามระเบียบงานสารบรรณ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ เห็นชอบ “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านาม พ.ศ. ๒๕๓๖” จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถานเห็นว่าระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน จึงขอนำเสนอรายละเอียด ดังนี้

          ตำแหน่งทางวิชาการ หมายความถึง ตำแหน่งศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษา  ไม่ว่าเป็นตำแหน่งทางวิชาการประจำ ตำแหน่งทางวิชาการพิเศษ ตำแหน่งทางวิชาการเกียรติคุณหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นในลักษณะเดียวกัน โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการมีสิทธิใช้ตำแหน่งทางวิชาการที่ได้รับเป็นคำนำหน้านามได้ในการลงชื่อ หนังสือ เอกสาร งานสารบรรณหรือการเรียกขานใด ๆ เสมือนยศหรือคำนำหน้านามอย่างอื่น

          ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการใช้คำนำหน้านามอย่างอื่นด้วยให้เรียงตามลำดับก่อนหลัง ดังนี้
          ๑. ตำแหน่งทางวิชาการ
          ๒. ยศ
          ๓. บรรดาศักดิ์ ฐานันดรศักดิ์ หรือคำนำหน้านามสตรีที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และมีสิทธิใช้คำนำหน้านามนั้นตามกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศของทางราชการ

          ทั้งนี้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการจะใช้ตำแหน่งทางวิชาการใต้ชื่อหรือต่อท้ายชื่อก็ได้ ส่วนในกรณีที่ดำรงตำแหน่งทางบริหารหรือตำแหน่งอื่นด้วย ผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการจะใช้ทั้งตำแหน่งทางวิชาการและตำแหน่งทางบริหารหรือตำแหน่งอื่นใต้ชื่อหรือต่อท้ายชื่อพร้อมกันก็ได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านาม ไม่สมควรใช้คำว่า “นาย” “นาง” “นางสาว” เป็นคำนำหน้านามพร้อมกับตำแหน่งทางวิชาการ

          สำหรับตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านามนั้น อาจใช้เป็นอักษรย่อ ดังนี้
         
๑. ศาสตราจารย์  ศาสตราจารย์พิเศษ  ศาสตราจารย์เกียรติคุณ หรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นในลักษณะเดียวกัน ใช้อักษรย่อ “ศ.”
          ๒. รองศาสตราจารย์  รองศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ “รศ.”
          ๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์  ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ “ผศ.”
อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ก็ได้ระบุว่า ในกรณีที่บุคคลอื่นหรือทางราชการจะเรียกชื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ จะใช้ตำแหน่งทางวิชาการตามระเบียบนี้หรือไม่ก็ได้ตามที่เห็นสมควร.


ที่มา : จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน  ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๕ เมษายน ๒๕๓๗