สวัสดีปีหนู อำลาปีกุนเข้าสู่ปีชวดซึ่งเป็นปีที่ ๑ ของรอบปีนักษัตร มีหนูเป็นเครื่องหมายประจำปีนี้ ผู้เขียนขอนำความรู้ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ มานำเสนอท่านผู้อ่าน ดังนี้ คำว่า “ชวด” ในพจนานุกรม มี ๓ ความหมาย ความหมายแรก หมายถึง “ชื่อปีที่ ๑ ของรอบปีนักษัตร มีหนูเป็นเครื่องหมาย” ความหมายที่ ๒ หมายถึง “ผิดหวัง ไม่ได้ดังหวัง” ความหมายที่ ๓ หมายถึง “พ่อหรือแม่ของปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ก็ว่า” คำว่า “นักษัตร” เป็นภาษาสันสกฤต มี ๒ ความหมาย ความหมายแรก หมายถึง “ดาว ดาวฤกษ์” ความหมายที่ ๒ หมายถึง “ชื่อรอบเวลา กำหนด ๑๒ ปี เป็น ๑ รอบ เรียกว่า ๑๒ นักษัตร โดยกำหนดให้สัตว์เป็นเครื่องหมายในปีนั้น คือ ชวด-หนู ฉลู-วัว ขาล-เสือ เถาะ-กระต่าย มะโรง-งูใหญ่ มะเส็ง-งูเล็ก มะเมีย-ม้า มะแม-แพะ วอก-ลิง ระกา-ไก่ จอ-หมา กุน-หมู” สระในภาษาไทยคือ “ ” จะเห็นเครื่องหมาย “ ” ” บนสระ “ ” เครื่องหมายนั่นแหละเรียกว่า “มูสิกทันต์” หรือ “ฟันหนู” นอกจากนั้น ในพจนานุกรมได้อธิบายว่า “หนู” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายสกุลในวงศ์ Muridae มีฟันแทะ มีอยู่ทั่วไปตามบ้านเรือนและในถิ่นธรรมชาติ มีหลายชนิด เช่น หนูพุกใหญ่ (Bandicota indica) หนูท้องขาว (Rattus rattus) บางชนิดเป็นพาหะนำโรค เมื่อใช้เป็นคำวิเศษณ์ “หนู” หมายถึง “เล็ก” ใช้เฉพาะพรรณไม้บางอย่างที่มีพันธุ์เล็กหรือของบางอย่างชนิดเล็ก เช่น กุหลาบหนู แตงหนู หม้อหนู หากเป็นภาษาปาก “หนู” หมายถึง สรรพนามบุรุษที่ ๑ ผู้น้อยใช้พูดกับผู้ใหญ่ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ผู้ใหญ่ใช้เรียกผู้น้อย คำสำหรับเรียกเด็ก มีความหมายไปในทางเอ็นดู เช่น หนูแดง หนูน้อย หวังว่าผู้อ่านคงได้รับความรู้เกี่ยวกับคำว่า “หนู” พอสมควร และขอสวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่าน ณัฐมาตย์ มูสิกะเจริญ |