กากี กากี เป็นชื่อหญิงรูปสวยกลิ่นตัวหอม เป็นชายาของท้าวพรหมทัตผู้ครองกรุงพาราณสี วันหนึ่งพญาครุฑซึ่งอยู่วิมานฉิมพลีที่เชิงเขาพระสุเมรุบินมาเที่ยวในชมพูทวีป โดยแปลงเพศเป็นมาณพ (ชายหนุ่ม) เข้าเล่นสกากับท้าวพรหมทัต นางกากียืนแฝงประตูดูเห็นมาณพรูปสวยก็เกิดอารมณ์รัก ฝ่ายมาณพชำเลืองเห็นนางก็เกิดอารณ์เช่นเดียวกัน หลังเลิกเล่นสกา ลาท้าวพรหมทัตออกมานอกเมืองแล้ว จึงกลายเพศเป็นพญาครุฑกระพือปีกพัดเมฆเกลื่อนกรุงพาราณสี และร่อนลงตรงหน้าปราสาทที่นางกากีประทับแล้วกลับเพศเป็นมาณพเข้าโลมนาง ซึ่งนางกากีก็ไม่ปฏิเสธรัก พญาครุฑจึงอุ้มนางบินกลับไปวิมานฉิมพลี กลายเพศเป็นเทพบุตร (เทวดาผู้ชาย) เข้าร่วมนางบนแท่นรัตนามัย ครบ ๗ วัน พญาครุฑมาเล่นสกาอีก ได้เวลาก็บินกลับ แต่คราวนี้มีคนธรรพ์ชื่อนาฏกุเวรแปลงกายเป็นตัวไรแอบซ่อนในขนครุฑกลับไปยังวิมานฉิมพลีด้วย (เพื่อสืบหานาง) โดยเกาะที่หน้าต่างวิมาน เมื่อเห็นครุฑไปแล้วก็ปรากฏร่างให้นางกากีเห็น แล้วเข้าโลมนาง เป็นอันว่ากลางคืนเป็นเมียครุฑ กลางวันเป็นเมียคนธรรพ์ ถึงวันเล่นสกาอีกครั้ง (สกาเล่น ๗ วันต่อครั้ง) คนธรรพ์จึงแอบซ่อนในขนครุฑอีกครั้งเพื่อกลับไปยังกรุงพาราณสีด้วย แล้วกราบทูลความให้ท้าวพรหมทัตทราบโดยตลอด ซึ่งเมื่อทราบความแล้วท้าวพรหมทัตทรงระงับความไว้ จวบจนครบ ๗ วันอีกครั้งเมื่อพญาครุฑมาเล่นสกา คนธรรพ์ได้ดีดพิณเป็นเพลงเย้ยพญาครุฑกล่าวตั้งแต่ตนไปอภิรมย์นางจนร้างจากกันมา ทำให้พญาครุฑอับอายมากกลับไปรับนางกากีมาส่งคืน เมื่อท้าวพรหมทัตเห็นนางได้ตรัสเย้ยและบริภาษด้วยเดือดแค้น และสั่งให้พานางไปลอยแพเสียในแม่น้ำไหล จึงเป็นที่มาของการเรียกหญิงมากชู้หลายผัว ว่า กากี. กนกวรรณ ทองตะโก |