สุพรรณหงส์ สุวรรณหงส์ “สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ บทเห่เรือดังกล่าวเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งท่านผู้อ่านหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก บทเห่เรือนี้ทำให้เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หล่าย ทั้งนี้ จากสารานุกรมไทย เล่ม ๒๘ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้เล่าถึง สุพรรณหงส์ หรือ สุวรรณหงส์ พอสรุปได้ว่า เป็นชื่อเรือพระที่นั่งลำหนึ่งในกระบวนเรือพระราชพิธีหรือกระบวนพยุหยาตราชลมารคของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา ชื่อเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ปรากฏครั้งแรกในสมัยพระมหาจักรพรรดิซึ่งปรากฏในพงศาวดารมีชื่อว่า “เรือพระที่นั่งชัยสุพรรณหงส์” ต่อมา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เปลี่ยนชื่อเป็น “เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็ปรากฎชื่อ เรือพระราชพิธีในกระบวนพยุหยาตราชลมารค ๖๗ ลำ และชื่อเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ด้วยลำหนึ่ง เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นเรือสำคัญมาตลอด จนเสื่อมสภาพลงและปลดระวางเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำดังกล่าวนี้เป็นต้นแบบของเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำปัจจุบันซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือตรีพระยาราชสงครามเป็นสถาปนิกต่อขึ้นใหม่แทนลำเดิมและพระราชทานนามเรือว่า “สุพรรณหงส์” เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำปัจจุบันประกอบพิธีลงน้ำเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ซึ่งเป็นเรือที่มีความงดงามในทางศิลปกรรม และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย อีกทั้งยังมีความสำคัญเป็นมรดกโลกที่แสดงถึงความมีอัจฉริยะของช่างต่อเรือไทยโบราณ รัฐบาลไทยได้ทำนุบำรุงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นอย่างดี จนสามารถนำไปรับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการพระราชพิธีต่าง ๆ มาจนปัจจุบัน หากใครต้องการไปเยี่ยมชมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ก็สามารถไปกันได้ที่พิพิธภัณฑ์โรงเรือพระราชพิธี ริมคลองบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร อิสริยา เลาหตีรานนท์ |