อาย (๑)
อาย ในภาษาไทยโบราณ มีความหมายว่า ไอ คือสิ่งที่ลอยหรือเจืออยู่กับอากาศ โดยมากมองไม่เห็น แต่มักมีกลิ่นหรือมีความร้อนความเย็นให้สังเกตได้. คำนี้ปรากฏในมหาชาติคำหลวงกัณฑ์ทานกัณฑ์ พระมัทรีพรรณนาทุกข์ของหญิงทั้งหลายที่ต้องทำประการต่าง ๆ เพื่อให้ตนสวยงามเป็นที่พึงใจชาย หนึ่งในนั้นคือ ทนอังอายของไฟแม้ในหน้าร้อน และลงอาบน้ำแม้ในหน้าหนาว ความว่า “องงเอาอายอัคนี เพื่อผุดศรีใสสาวบหนีหนาวหน้าตรชัก ลักลงทึกทกไถง” (อ่านว่า อัง-เอา-อาย-อัก-คะ -นี เพื่อ-ผุด-สี-ใส-สาว บ่อ-หฺนี-หฺนาว-หฺน้า-ตฺระ -ชัก ลัก-ลง-ทึก-ทก-ถะ -ไหฺง). อายอัคนี คือ ไอความร้อนจากไฟ.
ในอนิรุทธคำฉันท์ตอนพระอนิรุทธลาพระสนม นางสนมคร่ำครวญว่า พระอนิรุทธเสด็จไปในป่าจะต้องละอองฝุ่นและละอองอาย ความพรรณนาว่า
“อ้าพระเสด็จพนจำรัส พรรณแสงแสงจำรัสองค์
(อ้า-พฺระ / สะ -เด็ด / พะ-นะ-จำ -หฺรัด พัน-แสง-แสง / จำ-หฺรัด-อง)
ชอบเศร้าพระศรีนฤบดีผง ธุลีฝุ่นลอองอาย ฯ”
(ชอบ-เส้า / พฺระ-สี / นะ-รึ-บอ-ดี-ผง ทุ-ลี-ฝุ่น / ละ-ออง-อาย)
ที่มา : บทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.