ตรุษจีน

                 หลังจากผ่านพ้นวันปีใหม่สากล เมื่อวันที่ ๑ มกราคม มาแล้ว ลำดับต่อมาจะเป็นวันปีใหม่ของชาวจีนที่เรียกว่าวันตรุษจีน วันนี้มีความสำคัญอย่างไร เหตุใดจึงมีวันไหว้ วันจ่าย วันถือ รู้ รัก ภาษาไทย เล่ม ๔ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวไว้ สรุปได้ว่า

                 ตรุษจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ตรงกับวันที่ ๑ เดือน ๑ ของจีนตามวันทางจันทรคติ ชาวจีนถือว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลรื่นเริงที่จะพูดและทำแต่สิ่งที่เป็นมงคล ได้แก่ การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ เลี้ยงสังสรรค์ในครอบครัว และพักผ่อนหลังจากทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งปี โดยจะกล่าวอวยพรกันด้วยคำว่า “ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้” แปลตรงตัวว่า เดือนใหม่มีสุข ปีใหม่เจริญรุ่งเรือง หมายความว่า ปีใหม่ขอให้มีความสุขความรุ่งเรือง ชาวจีนจะเขียนคำอวยพรนี้ในกระดาษสีแดง ซึ่งเป็นสีมงคล ติดไว้ที่หน้าบ้าน และนิยมให้ส้มที่มีเปลือกสีเหลืองทองแก่กัน เป็นสัญลักษณ์ว่าให้สิ่งที่มีค่าและเป็นมงคลแก่บุคคลที่นับถือ

                 ปัจจุบันเทศกาลตรุษจีนจะมี ๓ วัน เรียกตามลำดับว่า วันจ่าย วันไหว้ และวันถือซึ่งเป็นวันตรุษ

                 วันจ่าย เป็นวันที่ลูกหลานชาวจีนออกซื้อของไหว้ ทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม เช่น เป็ด ไก่ ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลไม้ต่าง ๆ มีส้มเป็นอาทิ ชาจีน เหล้าชนิดต่าง ๆ เช่น เหล้าขาว กระดาษเงิน กระดาษทอง

                 วันไหว้ เป็นวันที่ทำพิธีไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ บางบ้านอาจไหว้ผีไม่มีญาติด้วย

                 วันถือ เป็นวันเริ่มแรกของปีใหม่ จึงเริ่มด้วยสิ่งที่เป็นมงคล ทุกคนจะพูดหรือทำแต่สิ่งที่ดี เมื่อพบกันก็มักจะอวยพรกันด้วยคำว่า “ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้” และผู้ใหญ่จะมอบเงินที่บรรจุในซองสีแดงแก่ลูกหลานเพื่อเป็นขวัญและสิริมงคล ในวันนี้ชาวจีนจะไม่ทำงาน ไม่ทำสิ่งที่เหนื่อยยาก เพื่อให้เป็นเคล็ดว่าได้เริ่มปีใหม่ที่สุขสบาย.

กนกวรรณ ทองตะโก