มิวเซียม

          สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๒๑ ระบุว่า คำ “museum” ในภาษาอังกฤษ ตรงกับศัพท์บัญญัติคำว่า “พิพิธภัณฑสถาน หรือ พิพิธภัณฑ์” แต่เดิมเรียกเป็นคำทับศัพท์ว่า “มิวเซียม” คำว่า “พิพิธภัณฑสถาน” ได้บัญญัติขึ้นในรัชกาลที่ ๗ เมื่อประกาศตั้ง “พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร”  ส่วนคำว่า “พิพิธภัณฑ์” ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกจากชื่อ “พระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

          สภาการพิพิธภัณฑสถานระหว่างชาติ หรือ ICOM (International Council of museums) ได้ให้คำจำกัดความ museum ว่าเป็นสถาบันถาวรที่ไม่จัดหาผลประโยชน์ ให้บริการแก่สังคม และการพัฒนาของสังคม เป็นสถาบันที่เปิดทั่วไปสำหรับประชาชน ทำหน้าที่รวบรวม สงวนรักษา ค้นคว้าวิจัย เผยแพร่ความรู้ และจัดแสดง โดยมุ่งหมายเพื่อการค้นคว้า ให้การศึกษาและความเพลิดเพลิน จากวัตถุที่รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ในเรื่องมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

          ความหมายดั้งเดิมของ museum ในภาษาอังกฤษนั้น มาจากคำกรีก มีความหมายว่าเป็นเทวาลัยของเทพธิดาทั้ง ๙ ของกรีก (Temple of Muses) ซึ่งเป็นเทพธิดาของเทพเจ้า Zeus และเทพี Mnemosyne ซึ่งเป็นเทพีแห่งความทรงจำ เทพธิดาทั้ง ๙ ล้วนเป็นเทพธิดาแห่งสรรพวิทยาการแขนงต่าง ๆ ของกรีก

          ในสมัยที่เกิด The Museum of Alexandria ที่เมืองอะเล็กซานเดรีย เมื่อราว ๒๔๐ ปีก่อนพุทธกาล ปรากฏคำว่า “Museum” ขึ้นเป็นครั้งแรก และได้มีพัฒนาการเรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน  ความหมายที่ว่าเป็นเทวาลัยแห่งสรรพวิทยาการยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันเพราะเป็นสถานที่ให้ความรู้แก่ผู้เข้าชมทุกประเภท ทุกวัย ทุกระดับการศึกษา ถือเป็นหนึ่งในสถานศึกษานอกระบบ และการศึกษานอกโรงเรียนที่สำคัญได้เลยค่ะ.

รัตติกาล  ศรีอำไพ