หลวงพ่อทองคำ

          วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติเนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่สุดในโลก วัดนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร เหตุใดจึงมีพระพุทธรูปทองคำมาประดิษฐานอยู่ พจนานุกรมวิสามานยนามไทย วัด วัง ถนน สะพาน ป้อม ที่นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ เรียบเรียง และราชบัณฑิตยสถานจัดพิมพ์ อธิบายไว้สรุปความได้ดังนี้

          วัดไตรมิตรวิทยารามเป็นวัดโบราณ เดิมชื่อวัดสามจีนใต้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๕ เหตุที่เรียกว่าวัดสามจีน เพราะมีชาวจีน ๓ คนได้ช่วยกันสร้างวัดนี้ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๘๒ เปลี่ยนชื่อเป็น วัดไตรมิตรวิทยาราม และเป็นที่ตั้งของสำนักเรียนธรรมวินัยและบาลี รวมทั้งโรงเรียนของรัฐบาลอีกด้วย

          วัดไตรมิตรวิทยารามเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป “พระสุโขทัยไตรมิตร” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย และมีการนำปูนปั้นหุ้มองค์พระไว้ เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุจังหวัดสุโขทัย ต่อมาอัญเชิญมาที่วัดพระยาไกรหรือวัดโชติการาม ต่อมาวัดโชติการามกลายเป็นวัดร้าง บริษัทอีสต์เอเชียติกได้ขอเช่าที่วัดเป็นโรงเลื่อยจักร จึงได้อัญเชิญพระสุโขทัยไตรมิตรมาประดิษฐานที่วัดไตรมิตรวิทยาราม แต่เนื่องจากขณะนั้นวัดไตรมิตรวิทยารามชำรุดทรุดโทรมมากและกำลังบูรณปฏิสังขรณ์ ทางวัดจึงได้อัญเชิญพระสุโขทัยไตรมิตรมาประดิษฐานที่ข้างพระเจดีย์ โดยปลูกเพิงสังกะสีกันแดดและฝนเท่านั้น หลังจากนั้นเป็นเวลา ๒๐ ปี เมื่อพระอุโบสถและพระวิหารหลังใหม่สร้างเสร็จแล้ว จึงได้อัญเชิญพระสุโขทัยไตรมิตรไปประดิษฐานในพระวิหารใหม่ แต่ในระหว่างการเคลื่อนย้ายปูนที่หุ้มองค์พระกะเทาะออกจึงทำให้เห็นองค์พระข้างในเป็นทองคำ ทางวัดจึงได้กะเทาะปูนออก นับเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามยิ่งองค์หนึ่งของประเทศไทย.

กนกวรรณ ทองตะโก