หวาย

          หนึ่งในประเภทของเครื่องเรือนที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ เครื่องเรือนประเภทที่ทำจากหวาย  ทราบไหมคะว่า  ในประเทศไทยมีหวายอยู่กี่สกุล และชนิดใดที่นิยมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน สารานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๒๘ อธิบายว่า

          ต้นหวาย เป็นชื่อพืชในวงศ์หมากและหวาย  หรือวงศ์ Palmae (วงศ์ปาล์ม) วงศ์ย่อย Calamoideae (วงศ์หวาย) ซึ่งส่วนมากมีลำต้นยาวเป็นเถาเลื้อย  ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก  มักมีหนามที่กาบใบ ก้านใบ และแกนใบ ผลเป็นเกล็ด เมล็ดขรุขระไม่เรียบ มีเยื่อนุ่มหุ้ม

          หวายที่พบในประเทศไทยมี ๗ สกุล ได้แก่ ๑. สกุลหวายตะค้า มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ส่วนใหญ่ไม่มีแส้หนามที่ปลายใบ เช่น หวายขี้ผึ้ง หวายตะค้าทอง หวายเล็ก หวายกำพวน ๒. สกุลหวายพาลี มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ปลายใบมีแส้หนาม ได้แก่ หวายพาลีใบใหญ่ และหวายพาลีใบเล็ก ๓. สกุลหวายพน มีลักษณะเด่น คือ เป็นปาล์มที่ออกดอกเป็นผลได้หลายครั้ง ปลายใบมีแส้หนามสำหรับใช้เกาะต้นไม้อื่นเพื่อพยุงลำต้น เช่น  หวายขี้เป็ด หวายพนขนหนอน  ๔. สกุลหวายเดา มีลักษณะเด่น คือ ตามข้อของลำหวายมีตาขนาดใหญ่ มักแตกกิ่งไปตามเรือนยอด ปลายใบมีแส้หนาม เช่น หวายเดาใหญ่ หวายกุ้ง  ๕. สกุลหวายช้าง มีลักษณะเด่น คือ กาบใบมีเกล็ดสีน้ำตาล และมีหนามขนาดใหญ่เรียงเป็นวงคล้ายหวี ปลายใบมีแส้หนาม ได้แก่ หวายช้าง  ๖. สกุลหวายกำพด มีลักษณะเด่น คือ ออกดอกเป็นผลครั้งเดียวแล้วตายไป รอบข้อของลำต้นมีรากหรือตุ่มของราก เช่น หวายใหญ่ หวายกำพด  ๗. สกุลหวายแดง มีลักษณะเด่น คือ ผิวของลำหวายเป็นสีมว่งแดง ออกดอกเป็นผลครั้งเดียวแล้วตายไป ได้แก่ หวายกุ้ง หวายแดง

          แม้ว่าในประเทศไทยจะมีหวายหลายชนิด แต่มีเพียงหวายขี้ผึ้ง หวายตะค้าทอง หวายเล็ก หวายโป่ง หวายกำพวน หวายขี้เป็ด หวายพนขนหนอน ที่นิยมนำมาทำเครื่องเรือน เครื่องจักสานหรือเครื่องมือเครื่องใช้ เพราะเนื้อและผิวหวายมีลักษณะสวยงาม เหนียวทนทาน.

        กนกวรรณ  ทองตะโก