อะไรเอ่ย

          เมื่อใดที่ได้ยินคำขึ้นต้นประโยคว่า อะไรเอ่ย ผู้ฟังคงจะทราบทันทีว่าประโยคที่จะได้ฟังต้องเป็นปริศนาหรือคำทาย คำทายที่จะยกตัวอย่างนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่ที่นำมากล่าวถึง เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าคนไทยในสมัยก่อนช่างคิด เจ้าบทเจ้ากลอน สามารถนำพืช ผัก สัตว์ หรืออวัยวะ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาผูกเป็นคำปริศนาให้ทาย ที่ใช้ฝึกได้ทั้งการคิด การใช้คำสัมผัส และการใช้คำเปรียบ นอกจากนี้ยังให้ความสนุกสนานอีกด้วย ดังเช่น

          กำแพงสามชั้นกั้นบ่อน้ำใส ธงชัยอยู่บน คำตอบคือมะพร้าวซึ่งน่าจะเป็นมะพร้าวที่เริ่มงอกแตกใบอ่อน และยังมีคำทายที่เกี่ยวกับมะพร้าวมีอีกหลายอย่าง เช่น แก่เรียกห้าว สาวเรียกอ่อน น้ำเต็มเมื่ออ่อน น้ำคลอนเมื่อแก่ ขาเดียวยันธรณี ใช้หางวาดวี มีลูกสามตา น้ำใสอยู่สูงสุด มนุษย์ชอบกิน

          ชื่อเป็นหน้าสัตว์ คนนำมาจัดแจกัน คำตอบคือ ดอกหน้าวัว

          ต้นเท่าขาใบวาเดียว คำตอบคือ ต้นกล้วย 

          ต้นเท่าแขนใบแล่นเสี่ยว คำตอบคือ ต้นอ้อย

          ต้นเท่าครกใบปรกดิน คำตอบคือ ตะไคร้ ต้นกล้วยกับต้นอ้อยอาจจะไม่สงสัยในคำตอบ เพราะขนาดลำต้นและใบใกล้เคียงกับคำทาย แต่ตะไคร้ทำไมถึงต้นเท่าครกได้ทั้ง ๆ ที่ขนาดลำต้นประมาณนิ้วมือ ที่คำทายเป็นเช่นนี้คงเนื่องมาจากใช้ขนาดทั้งกอของตะไคร้จึงวัดขนาดได้ประมาณเท่าครก

          ต้นเท่าลำหวาย ใบกระจายเต็มคลอง คำตอบคือ บัว 

          พี่มาจากพม่า พบน้องยาตัวสั้น ๆ รวมกันเป็นผลไม้อะไร คำตอบคือ มังคุด

          มีตารอบตัว หัวไว้จุก หรือ มีตารอบหัว เอาตัวไม่รอด คำตอบคือ สับปะรด

          เล็ก ๆ นุ่งขาว พอสาวเขียว แก้เลี้ยวนุ่งแดง คำตอบคือ พริกขี้หนู

          แหวกม่านเจอมุ้ง แหวกมุ้งเจอไหม แหวกไหมเจอเม็ด คำตอบคือ ข้าวโพด

          ข้างนอกประตูไม้ ข้างในประตูเหล็ก ผ้าผืนเล็กตากไม่แห้ง คำตอบคือ ลิ้น

          ไม่ใหญ่ไม่กว้าง แต่บังโลกมิด คำตอบคือ เปลือกตา

          ยังมีปริศนาคำทายอีกมาก หากสนใจอลงค้นหามาทายเล่นดู

   พัชนะ  บุญประดิษฐ์