อัคนิ

          เมื่อกล่าวถึง ไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ธาตุที่เรารู้จักกันดีว่าให้ความร้อน แสงสว่าง  แต่ทราบไหมว่าสำหรับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แล้ว ไฟยังมีบทบาทสำคัญช่วยให้มนุษย์ในโลกสามารถติดต่อกับเทพเจ้าได้อีกด้วย   พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๓ (แก้ไขเพิ่มเติม) อธิบายไว้ในคำ อัคนิ (Agni) ว่า

          อัคนิ เป็นชื่อเทพสำคัญองค์หนึ่งของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (ไทยเรียกว่า พระอัคนี) เป็นเทพเจ้าแห่งไฟที่พราหมณ์ให้ความนับถือมาตั้งแต่สมัยพระเวทจนถึงปัจจุบัน เพราะมีบทบาทสำคัญในการประกอบยัญพิธี คือเป็นสื่อกลางให้มนุษย์ในโลกติดต่อกับเทพเจ้าบนสวรรค์ได้  โดยในยัญพิธีพระอัคนีคือพระโอษฐ์ของเทพเจ้าทั้งปวง เป็นทูตที่นำเครื่องสังเวยและคำสวดอ้อนวอนต่าง ๆ ของมนุษย์ไปสู่เทพเจ้า

          ตำนานของพระอัคนีมีเล่าไว้แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะมีลักษณะความเป็นจริงตามธรรมชาติแฝงอยู่ด้วย เช่น เล่าว่าพระอัคนีเกิดจากไม้สีไฟ ๒ ชิ้นสีกัน เมื่อเกิดมาแล้วก็กินบิดามารดา ซึ่งคือวิธีจุดไฟในสมัยโบราณนั่นเอง  อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า พระอัคนีเป็นคู่แฝดของพระอินทร์ พระอินทร์นอกจากจะเป็นเทพซึ่งเป็นจอมนักรบแล้ว ยังเป็นเทพที่บันดาลให้เกิดฟ้าแลบด้วยการกวัดแกว่งสายฟ้าหรือวัชระรบกับอสูรที่กั้นน้ำไว้ เมื่ออสูรถูกสังหาร น้ำจึงตกลงมาเป็นน้ำฝน พระอัคนีก็คือสายฟ้าท่ามกลางสายฝน ซึ่งเมื่อผ่าโดนสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะมอดไหม้  อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า พระอัคนีเป็นบุตรของฤๅษีอังคีรส  ส่วนในคัมภีร์วิษณุปุราณะระบุว่า พระอัคนีเป็นโอรสองค์แรกของพระพรหม มีชายาชื่อสวาหา มีโอรส ๓ องค์ชื่อ ปาวกะ ปวมานะ และศุจิ และยังมีนัดดาอีก ๔๖ องค์ เชื้อสายของพระอัคนีจึงมีทั้งสิ้น ๔๙ องค์ ซึ่งหมายถึงไฟในลักษณะต่าง ๆ รวม ๔๙ ลักษณะ นอกจากนี้ในตำนานยังระบุว่ามีลม ๔๙ ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีผลให้เชื้อสายพระอัคนีแต่ละองค์มีกำลังแรงขึ้นด้วย.

      กนกวรรณ  ทองตะโก