ไอน์สไตน์ ยอดอัจฉริยะ หากจะนึกถึงนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและผลงานระดับโลกอันดับต้น ๆ คงจะหนีไม่พ้น นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขาคือ ทฤษฎีสัมพันธภาพ (Relativity) ความสามารถของเขาทำให้เขาได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะ ประวัติชีวิตและผลงานของเขาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง จากสารานุกรมประวัติศาสตร์สากลภูมิภาคอเมริกา ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้กล่าวถึงประวัติและผลงานของไอน์สไตน์ ที่น่าสนใจ ดังนี้ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ค.ศ. ๑๘๗๙ ที่ประเทศเยอรมนี ในวัยเด็กเขาไม่ค่อยชอบการไปโรงเรียน แต่ชอบที่จะทำแบบฝึกหัดวิชาพีชคณิตและเรขาคณิตด้วยตนเอง ไอน์สไตน์สนใจวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็กจึงได้สอบเข้าวิทยาลัยเฟเดอรัลโพลีเทคนิค เมื่อเรียนจบเขาได้งานเป็นพนักงานจดลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ใน ค.ศ. ๑๙๐๕ เขาได้ตีพิมพ์บทความทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพ ผลงานของเขาได้รับความสนใจในวงการวิชาการอย่างกว้างขวาง ต่อมาเขาได้รับเชิญเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ไอน์สไตน์ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง The General Theory of Relativity ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องและทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์เมื่อ ค.ศ. ๑๙๒๑ ต่อมา ในช่วงทศวรรษ ๑๙๒๐ และช่วงต้นทศวรรษ ๑๙๓๐ ขณะเขาไปบรรยายในสหรัฐอเมริกา พรรคนาซีได้ขึ้นครองอำนาจในประเทศเยอรมนี ไอน์สไตน์ตกเป็นเป้าหมายที่สำคัญของพรรคนาซี เขาจึงได้โอนสัญชาติเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา ชีวิตในบั้นปลายของไอร์สไตน์ได้อุทิศให้ความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อสังคม และพยายามผลักดันให้นานาชาติมีการใช้พลังงานปรมาณูเฉพาะในทางสันติ ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ค.ศ. ๑๙๕๕ ขณะอายุได้ ๗๖ ปี อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นับเป็นบุคคลตัวอย่างที่น่ายกย่องและสมควรเอาเป็นแบบอย่างในเรื่องการสนใจศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งเด็กไทยก็น่าเอาเป็นแบบอย่างในการขยันหาความรู้นอกห้องเรียน ไม่แน่ในอนาคตก็อาจจะเกิดอัจฉริยะชาวไทยก็เป็นได้ อิสริยา เลาหตีรานนท์ |